ก่อนที่เราจะเข้าไปเยี่ยมชมและทำบุญที่วัดพระแก้ว วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักเบื้องต้นกับเรื่องราวความเป็นมาของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กันก่อนหรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันสั้น ๆ ว่าวัดพระแก้วนั่นเอง โดยวัดแห่งนี้รัชกาลที่ 1 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2325 ตัวอุโบสถมีขนาดใหญ่ สวยงาม ด้วยงานฝีมือการก่อสร้างสุดปาณีตเท่าที่จะหาได้ในสมัยก่อน และยังคงสมบูรณ์แบบจนถึงทุกวันนี้ ด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้ในตัวอุโบสถสามารถสร้างะรเบียงเดินรอบ ๆ ได้เลยทีเดียว
เมื่อเรามาดูด้านในก็จะพบกับภาพวาดฝาหนังมากมายที่เต็มไปด้วยเรื่องราวตำนานต่าง ๆ ของประเทศไทย อย่างเรื่องรามเกียรติ์ ถ้าเราจะดูให้ครบกันหมดต้องเดินกันเป็นร้อยห้อง แถมเป็นที่เดียวในโลกที่มีภาพวาดยาวต่อกันขนาดนี้อีกด้วย และเมื่อก้าวเท้าเดินออกมาระเบียงด้านนอกจะพบกับรูปปั้นยักษ์ขนาดใหญ่ยืนอยู่รอบอุโบสถ ทั้ง 12 ตน โดยยักษ์พวกนี้เป็นตัวละครจากในเรื่องรามเกียรติ์ ที่มีหน้าที่ยืนเฝ้ารักษาความสงบให้แก่พระอุโบสถ
และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของเราในวันนี้ หากใครที่ไม่ได้มาไหว้พระแก้วมรกต ก็ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะนอกจากจะได้รับชมความวิจิตรการตาของพระพุธรูปแล้ว ยังสามารถขอพรให้สมหวังตามที่ปรารถนาโดยพระแก้วมรกต หรือ พระพุธมหามณีรัตนปฎิมากร มีความสูงถึง 6 เมตร กว้าง 4.8 เมตร แกะสลักด้วยหยกเขียวมรกตชั้นดี ตามศิลปะเชียงแสน มีตำนานเรื่องเล่าต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับที่มาที่ไป แต่ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือการได้รับความสนใจจากทั้งท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศ ที่ต่างเข้ามาเยี่ยมชมวัดพระแก้วกันอย่างไม่ขาดสาย โดยคนไทยถือว่าโชคดีมากที่ได้เข้าฟรี ส่วนคนต่างประเทศจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม 200 บาท โดยจะต้องมีการแต่งการที่สุภาพเรียบร้อยเท่านั้น ไม่งั้นก็เข้าไม่ได้ นอกจากจะขอยืมชุดในสถานที่ในราคา 200 บาท โดยเจ้าหน้าที่จะออกใบมัดจำไว้ให้ เราจะต้องเอาชุดไปคืนพร้อมกับรับเงินมัดจำคืน หากชุดหายค่ามัดจำก็จะโดนยึดไป ดังนั้นเก็บติดตัวไว้ให้ดี ๆ ระวังหล่นหาย ทั้งนี้วัดพระแก้ว เปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.30 น. โดยสถานที่ตั้งของตัววัดอยู่ติดกับถนนหน้าพระลาน ซึ่งจะมีรถโดยสารวิ่งประจำหลายสาย สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นสาย 1 สาย 53 หรือสาย 123 เป็นต้น
Comments are closed.